Social Icons

facebookgoogle pluslinkedinrss feedemail

รีวิวพลีชีพ แป้งผสมรองพื้น สูตรลับจากอิตาลี #แป้งอะไรมาจากอิตาลี

สวัสดีจ้าาา... วันนี้พี่เบิร์ดจะมารีวิวพลีชีพแป้งผสมรองพื้นเนื้อดี ที่ได้รับจากกิจกรรมแจกฟรีวันนี้ (29/8/2018) สดๆร้อนๆ จากห้างสีลมคอมเพล็กซ์





ด้วยความที่แบรนด์อะไรยังไม่รู้ เป็นความลับขั้นสุด รู้แค่ว่ามันอิมพอร์ตมาจากอิตาลี และใจป้ำมากกกมาแจกให้ลองกันฟรีๆ เท่านั้นเองต่อมอยากลอง ก็คันขึ้นมาทันที 5555 ก็เลยร่วมกิจกรรมถ่ายรูปลง IG เสร็จเรียบร้อย ก็ได้รับของแล้วก็รีบกลับมาทำรีวิวให้ชมกันเลยจ้า...

เริ่มกันด้วยความอยากรู้อยากเห็น เพราะแคมเปญนี้เค้ามี Hashtag ให้เราต้องสงสัยว่า #แป้งอะไรมาจากอิตาลี ด้วยรูปลักษณ์ของแพคเกจ และเนื้อสัมผัสของแป้ง เลยจะขอแยกรีวิวนี้ออกเป็นสองพาร์ท สำหรับในพาร์ทแรกนั้นเรามาดูในเรื่องของแพคเกจกันก่อน

ตลับแป้งแบบทรงกลมสีแดงสะท้อนแสงเมทัลลิกวิบวับดูหรูหรา ด้วยความที่เจ้าของแคมเปญไม่ได้ให้ข้อมูลอะไรกับเรามามากมายนัก แม้กระทั่งชื่อแบรนด์และราคา แต่ถ้าให้เราให้คะแนนจากแพคเกจ ณจุดนี้ ทำได้ดีทีเดียว เหมาะอย่างยิ่งสำหรับสาวๆที่พกใส่เป๋าไปไหนต่อไหน ลองคิดดูสิคุณ จะหยิบออกมาเติมที่ไหนก็ดูดี ดูสวยแพง คือถ้า ranking ราคาของแป้งนี้ให้วัดจากแค่แพคเกจขอให้เทียบชั้นระดับแบรนด์ Hi-end ได้เลยทีเดียว แต่เดี๋ยวก่อนจ้ะ ด้วยความแวววาวเมทัลลิกเช่นนี้ก็อาจจะมีบ้างที่เวลาจับอาจเป็นรอยมือหรือเปื้อนง่าย แต่ลองเช็ดแล้วก็กลับมาใสปิ้งวิบวับเช่นเดิมก็ถือว่าไม่แย่ แถมตลับมาน้ำหนักเบาไม่เปลืองพื้นที่เยอะพกพาสะดวก



มาส่องด้านในกันบ้าง กระจกที่ให้มากับตลับทำได้ค่อนข้างดี ขนาดกว้างพอสำหรับส่อง เห็นรายละเอียด ไม่เวียนหัวปวดตาใดๆ


พัฟที่แถมให้มาในตลับเนื้อแน่นเกาะแป้งได้ดี

ฉะนั้นเคาะคะแนนเลยละกัน แพคเกจ : 5 ดาว ไปเล้ยยยย 



ทีนี้มาที่เนื้อแป้ง นางเอกของโปรเจคกันบ้าง เนื่องด้วยทางน้อง MC เห็น IG เราว่าเราเป็นช่างแต่งหน้า ก็เลยฝากให้เรามาลองทั้งสองสีเลย นั่นคือ

#01 สำหรับผิวขาวอมชมพู
#02 สำหรับผิวเหลือง - สองสี

จากการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเค้าว่าแป้งมีแค่สองเบอร์ก็จริง แต่สามารถใช้ได้กับหลายโทนผิว
โดยที่เนื้อแป้งแม้จะเป็นแป้งผสมรองพื้น แต่ก็ให้ความโปร่งแสง จึงสามารถใช้ได้กับหลากหลายเฉดสีผิวนั่นเอง เพียงแต่คุณสาวๆอาจจะต้องเลือกโทนให้เหมาะกับตัวแป้งนิดนึง

พี่เบิร์ดก็เลยมีเคล็ดลับ เล็กๆน้อยๆมาฝากกันว่า เราจะรู้ได้ไงว่า ผิวเราคือโทนไหน ง่ายๆเลยพลิกดูเส้นเลือดที่ข้อมือของเรา กับแสงธรรมชาติ ลองส่องดูสิว่า เส้นเลือดของเราเป็นสีอะไร

ถ้ามีเส้นเลือดสีน้ำเงิน - ม่วง นั่นคือคุณมีผิวที่มีเฉดผิวโทนแดง หรือผิวอมชมพู

แต่ถ้าหากเส้นเลือดเป็นสีเขียว  นั่นหมายความคุณมีเฉดผิวสีเหลืองนั่นเองจ้า 

ง่ายๆเลย เจ้าตัว undertone นี้จะไม่มีวันเปลี่ยนแปลงแต่จะเปลี่ยนตรงระดับเฉดสีผิว เช่น เรามีอันเดอร์โทนผิวเหลือง แต่เฉดแป้งที่เราควรเลือกต้องอยู่ในกลุ่มเหลือง แต่เลือกใช้ระดับเฉดสี 1,2,3 นั่นเอง วิธีนี้ก็จะช่วยให้เราไม่หน้าเทาหรือหมองคล้ำระหว่างวันนั่นเองง

กลับมาที่แป้งตัวนี้ต่อ


จากรูปนี้ถ่ายกับแสงธรรมชาติ ตลับซ้ายคือ #01 ตลับขวา #02

แล้วทางแบรนด์ยังได้ให้ข้อมูลมาอีกด้วยว่าสามารถใช้ได้กับหลากหลายเฉดสีผิวโดยไม่ทำให้หน้าเทา  เราก็รีบกลับมาจัดด้วยการล้างหน้าแล้วลองแป้งแบบเพียวๆเลยมาดูกันจ้า


รูปนี้คือหน้าสดๆ ถ่ายจากกล้องมือถือที่ไม่ได้ผ่านการตกแต่งใดๆกับแสงธรรมชาติ และไม่ได้ลงอะไรทั้งแม้กระทั่งครีมบำรุงผิว

จากนั้นก็ลงแป้งด้านขวาครึ่งหน้าเปรียบเทียบให้ชมกันเลย พี่เบิร์ดใช้เบอร์ #02 เนื้อแป้งค่อนข้างทำได้ดีปกปิดได้ในระดับหนึ่งหากมองด้วยตาเปล่า


รูปนี้ลงแป้งทั่วทั้งหน้า

มาสรุปกันว่า ค่อนข้างปลื้มและประทับใจในการเกาะของเนื้อแป้งมากๆเพราะส่วนตัวเป็นคนที่ผิวหน้าแก้มค่อนข้างแห้งและเป็นขุยง่ายมากกกก และยังมีรอยแดงจากโรคผิวหนังประจำตัว ( Sebderm) จึงทำให้ผิวค่อนข้างเซนส์ซิทีฟและแห้งง่ายเป็นรอยแดง และจากการที่ผิวไม่ค่อยจะปกติดีเท่าไหร่ พี่เบิร์ดเลยไม่ชอบแป้งเนื้อแมตซักเท่าไหร่เพราะ ด้วยการทำงานของแป้งที่คุมมัน จะดูดน้ำมันบนผิวหน้าของเรา ทำให้มีอาการคันและเป็นขุย แต่แป้งตัวนี้ค่อนข้างตอบโจทย์ในเรื่องคุมมันอย่างเป็นธรรมชาติ คือไม่ได้แมทจนหน้าแห้งแต่ยังพอให้หน้าดูมีความชุ่มชื้นจากน้ำมันในผิวอย่างเป็นธรรมชาติ และเนื้อแป้งยังมีชิมเมอร์วิ้งๆเล็กกระจายแสงให้หน้าดูเนียนใสยิ่งขึ้น ตอนที่ถ่ายรูปทำรีวิวนี้ ถ่ายตอนประมาณบ่ายโมงครึ่ง ตอนที่พิมพ์ขณะนี้ 4 โมงกว่าหน้าก็ยังคงไม่คัน ไม่หนักหน้าและยังคงติดดีอยู่ ถือว่าทำได้ค่อนข้างดีทีเดียว

สรุปรวมๆแล้ว ถือว่าค่อนข้างพอใจ ไปทางพอใจมากเลยทีเดียว

ให้คะแนนคุณภาพสินค้า ไปเลย 5 คะแนน

และขอขอบคุณเจ้าของโปรเจค #แป้งอะไรมาจากอิตาลี ไว้ ณ โอกาสนี้ที่ได้ให้สินค้าดีงามแบบนี้มาให้เราลองใช้ก่อน 

แอบกระซิบไว้ว่า แป้งตัวนี้จะเปิดตัวพร้อมกันทั่วประเทศในวันที่ 7 เดือน กันยายน 2561 ที่จะถึงนี้
หากท่านใดสนใจรายละเอียดเพิ่มเติมก็ เข้าไปติดตาม Hashtag #แป้งอะไรมาจากอิตาลี ได้ที่ Instagram และโซเชียลมีเดียกันนะจ้ะ

รับรองได้เลยว่า เมคอัพการันตี ไม่มีผิดหวังจ้าาาา

ไม่มีความคิดเห็น:

B&C Perfumes Academy