Dior – J’adore L’Or ESSENCE DE PARFUM
โดยส่วนตัวเบิร์ดขอยก J’adore L’Or ให้ขึ้นแท่นเป็นน้ำหอมตัว Top สุดของไลน์ J’adore เลยละกันเนาะ เหตุผลคือ
1. เจ้าน้ำหอมรุ่นนี้ถูกรังสรร ค์ออกมาเพื่อยัดเข้าเป็นส่ว นหนึ่งของไลน์สกินแคร์สุดหร ูที่มีราคาแพงหูฉีกอย่าง L’Or de Vie สีทองอร่าม ซึ่งเป็นไลน์สกินแคร์ Top สุดของ Dior เช่นกัน
2. รูปทรงขวดที่ดูหรูหรา และ packaging ที่งดงามเป็นพิเศษเหนือกว่า รุ่นอื่นๆ
3. ส่วนผสมที่ล้ำค่า
4. เบสความเข้มข้นของน้ำหอมที่ สูงที่สุดในไลน์ และ
5. ราคาต่อหน่วยที่แพงลิบ
ด้วยเหตุประการฉะนี้ เอามงไปเลย ตำแหน่งน้ำหอมตัว Top ของไลน์
.
J’adore L’Or เป็นน้ำหอมแนว Oriental – Floral โดดเด่นด้วยกลิ่นหอมหวานและ เย้ายวนของดอกไม้ที่ถูกเบลน เข้า
กับวานิลา ให้ความรู้สึกอบอุ่น เย้ายวน น่าเข้าหาชวนคลุกวงใน. flanker
รุ่นนี้มาในเบสความเข้มข้น Essence de Parfum ซึ่งจัดว่าเป็นรุ่นที่มีเบส ความเข้มข้นสูงที่สุดในกลุ่ ม
ถ้าเปรียบเทียบ J’adore L’absolu คือ Eau de Parfum Intense, J’adore L’Or
ก็คงจะเปรียบได้กับ Pure Parfum ที่มีความเข้มข้นมากที่สุดน ั่นเอง
.
โน้ตอันเป็นหัวใจสำคัญของ J’adore L’Or ประกอบด้วย 3 อย่างหลักๆ ส่วนผสมอย่างแรกคือ Rose de Mai Absolute หรือกุหลาบ May Rose เป็นกุหลาบพันธุ์เดียวกับที ่ใช้ปรุง CHANEL No5 ดอกกุหลาบพันธุ์นี้จัดว่าเป ็นหนึ่งในส่วนผสมที่หาได้ยา ก เนื่องจากว่าใน 1 ปีมันจะเบ่งบานสะพรั่ง พร้อมให้เก็บเกี่ยวเฉพาะเดื อนพฤษภาคมเท่านั้น
.
ส่วนผสมถัดไปคือ Jasmine de Grasse Absolute หรือดอกมะลิจากเมือง Grasse, แคว้น Provance, ประเทศฝรั่งเศส. ดอกมะลิจากเมืองนี้นับว่าเป ็นส่วนผสมอีกอย่างหนึ่งที่ห ายากมาก เนื่องจากมีปริมาณการปลูกที ่น้อยนิด (ต่างจากลาเวนเดอร์ที่ปลูกก ันอย่างแพร่หลายจนเป็นของขึ ้นชื่อประจำเมืองโพรวองซ์) ซึ่งทุกๆวันหยุดแรกของเดือน สิงหาคมในแต่ละปี ที่เมืองแห่งนี้จะจัดเทศกาล “Jasmine Festival in Grasse” เพื่อเฉลิมฉลองให้กับฤดูกาล เก็บเกี่ยวดอกมะลิสุดหายากน ี้ถึง 3 วันเต็ม เรื่องราวของเทศกาลนี้สามาร ถหาอ่านได้ตามอินเตอร์เน็ต ขอไม่พูดถึงรายละเอียดเพราะ มันยาว เกรงว่าจะออกนอกทะเลไปมากกว ่านี้
.
ส่วนผสมสุดท้ายคือตัวประกอบ ที่เป็นหัวใจสำคัญของ J’adore L’Or นั่นคือ วานิลา. วานิลาที่ใช้ปรุงเป็นส่วนผส มก็ไม่ใช่วานิลาธรรมดาทั่วๆ ไป เพราะนี่คือ Tahitian Vanilla หรือวานิลาจาก French Polynesia นั่นเอง กลิ่นต่างจากวานิลาธรรมดายั งไงอันนี้ก็ไม่ทราบ เพราะส่วนตัวแยกกลิ่นไม่ออก นะ ดมดูก็ได้กลิ่นวานิลาเหมือน เดิม
.
ช่วง Top Notes ให้กลิ่นหรูหรามากๆ ตามข้อมูลแจ้งว่าเป็นช่วงขอ งดอกกุหลาบ Rose de Mai แต่โดยส่วนตัวเบิร์ดจับกลิ่ นมะลิกับวานิลาได้เป็นอย่าง แรก มาแบบหวานแน่น จัดเต็ม และเย้ายวนเกิดห้ามใจ ส่วนกุหลาบนั้นดูไม่โดดเด่น เท่าไหร่นัก เพราะจุดสำคัญจริงๆเขาโฟกัส ไปที่ความหวานเฟมินีนจากดอก มะลิกับวานิลาซะมากกว่า
.
ตั้งแต่ช่วง Middle Notes ไล่ยาวไปจนถึงช่วง Base มีตัวเด่นคือดอกมะลิ Jasmine de Grasse ให้กลิ่น White Floral หรูหราและมีระดับเช่นเคย ทำหน้าที่โดดเด่นควบคู่ไปกั บ Tahitian Vanilla ที่มอบความหวานหยดย้อย หนักแน่นและอบอุ่นสไตล์ Oriental
.
ความทนไม่ต้องพูดถึง ทนแบบสุดยอดจริงๆ และกระจายตัวได้ดีในระดับเท พมากๆอีกด้วย แม้ปริมาณใหญ่สุดจะแค่ 40 ml แต่เชื่อเถอะ ปริมาณที่ใช้ต่อ 1 ครั้งมันน้อยจริงๆ เพียง 2 สเปรย์ก็ให้กลิ่นฟุ้งในระดั บรอบตัวได้สบายๆ แต่มีข้อแม้นิดนึงว่า ควรใส่ออกงานกลางคืนเท่านั้ นนะจ๊ะ ที่อากาศเย็นๆเท่านั้นที่คน รอบข้างจะสามารถรับได้ ยิ่งสวมชุดราตรีสีทองยิ่งเป ็นอะไรที่เข้ากันเป็นพิเศษ
.
.
.
http:// www.fragrantica.com/ perfume/Christian-Dior/ J-Adore-L-Or-10371.html
1. เจ้าน้ำหอมรุ่นนี้ถูกรังสรร
2. รูปทรงขวดที่ดูหรูหรา และ packaging ที่งดงามเป็นพิเศษเหนือกว่า
3. ส่วนผสมที่ล้ำค่า
4. เบสความเข้มข้นของน้ำหอมที่
5. ราคาต่อหน่วยที่แพงลิบ
ด้วยเหตุประการฉะนี้ เอามงไปเลย ตำแหน่งน้ำหอมตัว Top ของไลน์
.
J’adore L’Or เป็นน้ำหอมแนว Oriental – Floral โดดเด่นด้วยกลิ่นหอมหวานและ
.
โน้ตอันเป็นหัวใจสำคัญของ J’adore L’Or ประกอบด้วย 3 อย่างหลักๆ ส่วนผสมอย่างแรกคือ Rose de Mai Absolute หรือกุหลาบ May Rose เป็นกุหลาบพันธุ์เดียวกับที
.
ส่วนผสมถัดไปคือ Jasmine de Grasse Absolute หรือดอกมะลิจากเมือง Grasse, แคว้น Provance, ประเทศฝรั่งเศส. ดอกมะลิจากเมืองนี้นับว่าเป
.
ส่วนผสมสุดท้ายคือตัวประกอบ
.
ช่วง Top Notes ให้กลิ่นหรูหรามากๆ ตามข้อมูลแจ้งว่าเป็นช่วงขอ
.
ตั้งแต่ช่วง Middle Notes ไล่ยาวไปจนถึงช่วง Base มีตัวเด่นคือดอกมะลิ Jasmine de Grasse ให้กลิ่น White Floral หรูหราและมีระดับเช่นเคย ทำหน้าที่โดดเด่นควบคู่ไปกั
.
ความทนไม่ต้องพูดถึง ทนแบบสุดยอดจริงๆ และกระจายตัวได้ดีในระดับเท
.
.
.
http://
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น