Social Icons

facebookgoogle pluslinkedinrss feedemail

ประเภทของน้ำหอมแต่ละประเภทมีลักษณะอย่างไรบ้าง?


ประเภทของน้ำหอมนั้นมีอยู่หลายประเภทแต่ บางท่านทราบหรือไม่ว่าน้ำหอมแต่ละประเภทมีความแตกต่างกันอย่างไร และความคงทนของกลิ้นนั้นจะอยู่ได้นานแค่ไหน ซึ่งโดยส่วนตัวแล้วผมไม่มีความรู้ด้านนี้เท่าไหร่จึงนำความรู้เรื่องนี้มา แชร์กับทุกคนนะครับ เราไปดูกัน

ประเภทน้ำหอมและความคงทนของกลิ่น Perfume Types
Eau de เป็นภาษาฝรั่งเศสแปลว่า "น้ำ (Water)" เวลาเอามาเขียน รวมกับพวกหัวน้ำหอมในระดับความเข้มข้นต่างๆก็จะหมายถึง มีการเจือน้ำเข้าไป ซึ่งความคงทนของกลิ่นก็จะไม่อยู่นานเท่า Pure Perfume เวลาเลือกน้ำหอมนั้นให้ดูว่าเป็นประเภทไหน
IFRA = International Fragrance Association
EDP = Eau de Parfum /Eau de Perfume
EDT = Eau de Toilette
EDC = Eau de Cologne

ประเภทของน้ำหอม (Perfume Types) จำแนกตามความเข้มข้นของหัวเชื้อ (Perfume Oil) จากมากไปน้อย ข้อมูลจาก wiki มีดังนี้
Perfume extract (Extrait): 15-30% (IFRA: โดยทั่วไป 20%) aromatic compounds สังเกตง่ายๆเวลาไปซื้อน้ำหอม ขวดมักจะเล็กและปริมาณน้อยกว่า EDP/EDT ราคาค่อนข้างแพง หลายยี่ห้อจะทำเป็นหัวลูกกลิ้งหรือไม่ใช่หัวสเปรย์ (แต่หัว spray ง่ายและสะดวกที่สุด ก็จะยังนิยมใช้อยู่) คงความหอมได้นาน 6-8 ชม.
Eau de Parfum /Eau de Perfume (EdP): 10-20% (โดยทั่วไป ~15%) aromatic compounds. ส่วนใหญ่ที่ขายกันก็จะเป็นประเภทนี้แหละค่ะ คงความหอมได้นาน 4 ชม.
Eau de Toilette (EdT): 5-15% (โดยทั่วไป ~10%) aromatic compounds นี่ก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่ราคาถูกลงมาอีกนิด คงความหอมได้นาน 3-4 ชม.
Eau de Cologne (EdC): Chypre citrus type perfumes with 3-8% (โดยทั่วไป ~5%) aromatic compounds กลิ่นจะจางเร็ว หอมอ่อนๆแบบวัยรุ่น มักจะราคาไม่แพงเพราะมีหัวน้ำหอมแค่นิดเดียว คงความหอมได้นาน 3 ชม.
Splash and After shave: 1-3% aromatic compounds พวกนี้ถือว่าใส่เพื่อให้เกิดความหอมสดชื่นหลังจากใช้งานเพียงแค่แป๊บๆ
ความคงทนของน้ำหอมในการใช้ประเภทต่างๆ
ความ ติดทนนานของน้ำหอมแต่ละประเภทตามที่บอกมานี้ ค่าอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ ขึ้นอยู่กับผิวของแต่ละคนด้วยนะคะ แล้วก็น้ำหอมที่เจือเข้าไปในโลชั่นต่างๆ อาจมีค่าความเข้มข้นหัวน้ำหอมต่างกันไป ก็บอกแน่นอนไม่ได้ เวลาซื้อก็พยายามดูว่าเค้าใช้ Perfume Oil กี่%
พวก Perfume ที่ผสมใน Skin Care เค้าบอกว่ามีอยู่สองประเภทด้วยกัน แต่เราก็ไม่เคยสังเกตความแตกต่างสักทีแต่รู้ว่ากลิ่นจะหอมและติดทนนานกว่า โลชั่นธรรมดาแน่ๆ ก็จะมีแบบครีมและโลชั่น
[1] Fragranced Body Creams ลักษณะการใช้งานคือครีมทาตัวแล้วในขณะเดียวกันก็ต้องการกลิ่นหอมๆเหมือนได้ ใช้ น้ำหอมไปด้วยในตัว พวกนี้จะมี Perfume Oil อยู่ประมาณ 8% เทียบเท่ากับพวก Eau de toilette แต่กลิ่นหอมติดทนนานกว่ามากเนื่องจากมันติดอยู่ในครีมที่หนืดซึ่งจะจางและ ระเหยไปได้ยากกว่า EDT ธรรมดานั่นเอง
[2] Scented Body Lotions ถ้าเป็นหัวน้ำหอมในโลชั่นก็จะใส่อยู่ประมาณ 3-5% ความติดคงทนของกลิ่นก็จะน้อยกว่าครีม
Perfume จะคงความหอมได้ 6-8 ชม.
• Body cream จะคงความหอมได้ 5 ชม.
• Body lotion จะคงความหอมได้ 4-5 ชม.
• Eau de perfume จะคงความหอมได้ 4 ชม.
• Eau de toilette จะคงความหอมได้ 3-4 ชม.
• Cologne จะคงความหอมได้ 3 ชม.
• Shower gel จะคงความหอมได้ 2 ชม.
• Body spray จะคงความหอมได้ 1-2 ชม

ไม่มีความคิดเห็น:

B&C Perfumes Academy